ทีมชาติอังกฤษ เปิดบ้านถล่ม ไอวอรี่โคสต์ ในเกมนัดกระชับมิตร 3-0 โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง สวมปลอกแขนกัปตันทีม ทำผลงานอันยอดเยี่ยม ยิง 1 ประตู ทำแอสซิสต์อีก 1 ประตู
เกมการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ในวันอังคารที่ 29 มีนาคม 2565 ทีมชาติอังกฤษ เปิดสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ไอวอรี่โคสต์
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ทีมชาติอังกฤษ นำทัพมาโดย แกเร็ธ เซาธ์เกต โดยในเกมนี้มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง ในเกมนี้วางแผนมาในระบบ 4-3-3 โดยมี ผู้รักษาประตู – นิค โป๊ป กองหลัง – เบน ไวท์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ไทโรน มิงส์ และ ไทริค มิตเชลล์ กองกลาง – จู๊ด เบลลิงแฮม, เดแคลน ไรซ์ และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ กองหน้า – ราฮีม สเตอร์ลิง, แจ็ค กรีลิช และ โอลลี่ วัตกิ้นส์
ทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ภายใต้การคุมทีมของ ปาทริซ โบแมลล์ โดยเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 มี ผู้รักษาประตู บาดรา ซ็องกาเร่ กองหลัง – ฮัสซาน กามาร่า, ไซมอน เดลี, เอริค ไบยี่ และ แซร์ช โอริเย่ร์ กองกลาง – ฟร้องค์ เกสซีเย่, ฌอง มิเชล เซรีนิโกล่าส์ เปเป้, แม็กซ์เวล กอร์กเน่ต์, แม็กซ์-อแล็ง กราเดล โดยทิ้ง เซบาสเตียง อัลแลร์ อยู่หน้าเป้าคอยหาจังหวะทำประตู
เปิดเกมในครึ่งแรก ในช่วงแรก ทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูที่จะแจ้ง ยังคงผลัดกันรุกผลัดกันรับ
มาถึงนาทีที่ 15 เจ้าบ้านอังกฤษ เกือบได้ประตูออกนำก่อน จากจังหวะที่ จู๊ด เบลลิงแฮม หลุดเข้าไปยิงประตู แต่โดน บาดรา ซ็องกาเร่ ผู้รักษาประตูของไอวอรี่โคสต์ ป้องกันเอาไว้ได้
ต่อมา อังกฤษ ได้โอกาสลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 20 เมื่อ แจ็ค กรีลิช หาช่องแล้วกดบอลเรียดเข้ามา แต่โดนทางด้า บาดรา ซ็องกาเร่ รับเอาไว้ได้
มาในนาทีที่ 30 อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง โชว์ความสามารถเฉพาะตัวสับขาหลอกผู้เล่นของไอวอรี่โคสต์ ก่อนที่จะเปิดบอลไปให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ที่วิ่งเข้ามายิงบอลเข้าประตูไปอย่างสบายๆ
มาถึงในนาทีที่ 40 ไอวอรี่โคสต์ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เมื่อ แซร์ช โอริเย่ร์ ได้ใบเหลืองใบที่สอง ไล่ออกจากสนามไป เนื่องจากแสดงความไม่พอใจคำตัดสินของกรรมการ
หลังจากนั้นเพียง 5 นาที นาทีที่ 45 อังกฤษ ได้ประตูที่สอง เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงในจังหวะแรกแต่ไปติดเซฟของทางด้าน บาดรา ซ็องกาเร่ บอลกระเด็นไปเข้าทางของ แจ็ค กรีลิช หาจังหวะเปิดบอลมาให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ทิ้งตัวยิงเข้าประตูไป ช่วยให้อังกฤษ ขึ้นนำไปเป็น 2-0
จบเกมในครึ่งแรก อังกฤษ นำ ไอวอรี่โคสต์ 2-0
เริ่มเกมในช่วงครึ่งหลัง ในนาทีที่ 46 ไอวอรี่โคสต์ ได้จังหวะลุ้นประตูก่อน จากการยิงไกลของ ฟร้องค์ เกสซีเย่ แต่ นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูของอังกฤษรับเอาไว้ได้
หลังจากนั้นก็มีจังหวะปัญหา เมื่อผู้ตัดสินให้อังกฤษ ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฟุสเซนี คูลิบาลี่ ทำฟาวล์ จู๊ด เบลลิงแฮม แต่หลังจากที่ผู้ตัดสินไปดู VAR แล้ว ก็กลับคำตัดสินไม่ให้จุดโทษ
เกมเดินมาถึงในนาทีที่ 62 ทัพสิงโตคำราม ขอเปลี่ยนตัวนักเตะหลายคน โดยส่ง แฮร์รี่ เคน ลงไปเล่นแทน โอลลี่ วัตกิ้นส์, เอมิล สมิธ โรว์ ลงไปเล่นแทน แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น ลงไปเล่นแทน ราฮีม สเตอร์ลิง และ ลุค ชอว์ ลงไปเล่นแทน ไทริค มิตเชลล์
หลังจากนั้นเกมเดินไปอย่างไม่มีอะไรที่หวือหวา ถึงแม้ว่า อังกฤษ จะมีโอกาสทำประตูได้มากกว่า แต่ก็ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้
จนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+3 อังกฤษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 จาก ลูกเตะมุม โดย ฟิล โฟเด้น เปิดบอลเข้ามาตรงกลางประตู และเป็นทางด้าน ไทโรน มิงส์ ที่ขึ้นโขกบอลเข้าประตูไป
จบเกม ทีมชาติอังกฤษ เอาชนะ ไอวอรี่โคสต์ ไปแบบขาดลอย 3-0 ในเกมอุ่นเครื่อง โดยอังกฤษ ได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ แล้ว ซึ่งจะมีการจับสลากแบ่งกลุ่มกันในวันศุกร์ที่ 1 เมษายน ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้าน ไอวอรี่โคสต์ ตกรอบ
