ซนฮึงมิน ถือว่าเป็นนักเตะชาวเอเชียที่เก่งที่สุดในตอนนี้ จากผลงานของเขาที่ผ่านมา แต่กว่าที่เขาจะมาจนถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซนฮึงมิน เกิดในวันที่ 8 กรกฎาคม 1992 ที่เมืองกังวอน ประเทศเกาหลี โดยชีวิตในวัยเด็กของเขาเรียกได้ว่าลืมการเล่นสนุกเหมือนเด็กในวัยเดียวกันไปได้เลย ซนฮึงมิน เกิดมาในครอบครัวชาวเกาหลี ที่มีพ่อของเขาเป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพ และเคยติดทีมชาติชุดบี ซนวูงจัง พ่อของเขาเป็นบุคคลที่มีปลูกฝังเรื่องฟุตบอลให้ตั้งแต่ยังเขายังเล็ก
ซึ่งจากความจริงจังตามแบบฉบับของคนเกาหลีแล้ว ซนฮึงมิน ในวัย 1 ขวบ ได้ฝึกซ้อมเดาะบอลด้วยการใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงตามคำสั่งของพ่อของเขา การเล่นฟุตบอลของของเขาในวัยเด็กไม่ได้สนุกอย่างคนอื่นเท่าไรนัก เพราะพ่อของเขาให้ทุ่มเทไปที่การฝึกซ้อมเพียงอย่างเดียว ซึ่งในตอนนั้น ซนฮึงมินไม่เคยได้ลงแข่งเลยสักครั้ง เพราะพ่อของเขามองว่า การแข่งขันในตอนเด็กเป็นการทำลายศักยภาพของเด็ก เนื่องจากจะต้องใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป และกว่าที่เขาจะได้ลงสนามเพื่อแข่งขัน ก็ในตอนนี้ที่ ซนฮึงมิน อายุ 14 ปี
ซนฮึงมิน เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลด้วยการเข้าร่วมอคาเดมี่ของสโมสรเอฟซี โซล และได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของฮัมบูร์ก สโมสรในประเทศเยอรมัน ในตอนนี้ที่เขาอายุ 16 ปี จากโครงการ Korean FA Youth Project และที่นั่น ซนฮึงมึนได้พัฒนาตัวเองขึ้นอย่างมาก เขาเล่นอยู่กับทีมเยาวชนของฮัมบูร์กอยู่ 2 ปี ก่อนที่จะได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับฮัมบูร์ก ตอนเขาอายุ 18 ปี ซนฮึงมิน ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ทันที ก่อนที่จะยิงประตูแรกให้กับต้นสังกัดได้ ในนัดที่เจอกับ โคโลญจน์ ในเดือนตุลาคม 2010 นอกจากนี้ยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดของฮัมบูร์กที่สามารถยิงประตูได้ในเกมบุนเดสลีกา และในฤดกาล 2012-2013 ซนฮึงมิน ได้เป็นดาวซัลโวของฮัมบูร์ก ด้วยการทำประตูไปได้ 12 ประตู และนั่นทำให้ เลเวอร์คูเซ่น ต้องยอมที่จะจ่ายค่าตัวถึง 10 ล้านยูโร เพื่อคว้าตัว ซนฮึงมิน มาร่วมทีม ในปี 2013 และกลายเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรในตอนนั้นด้วย
ซึ่งการย้ายไปอยู่ในทีมใหญ่ ก็ไม่ใช่อุปสรรคของซนฮึงมินเลย เขายังคงทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่เขาค้าแข้งอยู่ที่นี่ เขาทำไปทั้งหมด 29 ประตู จากการลงสนาม 87 นัดในทุกรายการ
ซนฮึมิน ในตอนนั้นได้กลายเป็นที่สนใจของทีมดังในยุโรปหลายทีม และสุดท้ายแล้ว ซนฮึงมิน ก็ถูกดึงตัวไปร่วมทีม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการทุ่มเงินกว่า 30 ล้านยูโร ในปี 2015 และกลายเป็นนักเตะเอเชียที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งในช่วงแรกของการค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก ได้โดนวิจารณ์ว่าเหตุผลที่เขาย้ายมายังพรีเมียร์ลีกนั้น เป็นเพราะการตลาดของเกาหลีมากกว่า แต่เมื่อเขาได้ลงสนามคำวิจารณ์ต่างๆ ที่มีถึงตัวของเขาก็เริ่มจางหายไป ถึงแม้ว่าในช่วงฤดูกาลแรก ซนฮึงมิน จะไม่ค่อยได้ลงสนามเป็นตัวจริงมากนัก เนื่องจากในตอนนั้น ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มีกองหน้าตัวจริงอย่าง แฮร์รี่ เคน ,เดเล่ อัลลี่,คริสเตียน อิริเซ่น เอริค ลาเมล่า ทำให้ซนฮึงมินได้ลงสนามในตำแหน่งซูเปอร์ซับเสียมากกว่า แต่เขาก็ยังทำได้ 8 ประตูในทุกรายการ
มาในฤดูกาลถัดมา หลังจากที่ ซนฮึงมิน ปรับตัวเข้ากับเกมในอังกฤษได้แล้ว ซนฮึงมิน ก็ได้พัฒนาความแข็งแกร่งของเขา ทำให้เขามีฝีเท้าที่ยกระดับขึ้นไปแบบก้าวกระโดด และกลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ เลือกที่จะใช้งานเกือบทุกเกม ซึ่งผลงานของเขาก็เรียกว่ายอดเยี่ยมมาโดยตลอดในทุกฤดูกาล และเขาก็สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มาได้ในปี 2018-2019,2019-2020 มาถึงในช่วงการผลัดเปลี่ยนผู้จัดการทีมของสเปอร์ส ซนฮึงมิน ก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญที่ สเปอร์ส จะขาดไม่ได้ในทุกเกมที่ลงสนาม
ส่วนผลงานในทีมชาติเกาหลี ซนฮึงมิน ลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2010 เป็นนัดแรก ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น และเขาก็มีรายชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของทีมชาติเกาหลีมาโดยตลอดนับจากนั้นมา
ผลงานกับท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
– รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2018-2019
– ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสโมสร ฤดูกาล 2018-2019, 2019-2020
– ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ก.ย. 2016, เม.ย. 2017, ต.ค. 2020
– ประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-2020
– ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกของพีเอฟเอ ฤดูกาล 2020-2021
ผลงานกับทีมชาติเกาหลี
– แชมป์เอเชียน เกม 2018
– รองแชมป์เอเชียน คัพ 2015
– นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย 5 สมัย (2014, 2015, 2017, 2018, 2019)
– นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเกาหลีใต้ 4 สมัย (2013, 2014, 2017, 2019)